สิ่งต้องรู้! ก่อนการ ดูดไขมันหน้าท้องผู้ชาย
อัปเดตเมื่อ 25 มิ.ย. 2564
หลายคนที่มีปัญหารูปร่างคิดว่าผู้หญิงเท่านั้นที่สามารถดูดไขมันได้ แต่ที่จริงแล้วดูดไขมันผู้ชายก็ทำได้ และการ ดูดไขมันหน้าท้องผู้ชาย ก็ฮิตไม่แพ้กัน เพื่อออกแบบหุ่นให้เข้ารูป กำจัดไขมันส่วนเกินที่ลดยากในพริบตา

ปัจจุบันการดูดไขมันหน้าท้องผู้ชาย ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่คุณผู้ชายหลายท่านมี ไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat) ร่วมกับ ไขมันใต้ชั้นผิวหนัง (Subcutaneous Fat) ซึ่งอาจมาจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน ทั้งการรับประทานอาหารในปริมาณมาก หรือการดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้มีหน้าท้องที่ใหญ่ และยื่นออกมาอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งไขมันในช่องท้องจะสะสม และพอกตัวอยู่รอบอวัยวะภายในช่องท้อง จะไม่สามารถดูดไขมันเหล่านั้นออกมาให้ได้
ซึ่ง Qurve Clinic มีศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่จะประเมินว่าคุณผู้ชายสามารถดูดไขมันหน้าท้อง ที่กวนใจออกมาได้หรือไม่ เพราะเราใส่ใจผลลัพธ์ที่ดีที่สุด มาคู่กับความปลอดภัยเป็นอันดับ 1
ดูดไขมันหน้าท้องผู้ชายคืออะไร ต่างกันของผู้หญิงไหม
คุณผู้ชายหลายท่านมี ไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat) ร่วมกับ ไขมันใต้ชั้นผิวหนัง (Subcutaneous Fat) ซึ่งอาจมาจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน ทั้งการรับประทานอาหารในปริมาณมาก หรือการดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้มีหน้าท้องที่ใหญ่ และยื่นออกมาอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งไขมันในช่องท้องจะสะสม และพอกตัวอยู่รอบอวัยวะภายในช่องท้อง จะไม่สามารถดูดไขมันเหล่านั้นออกมาให้ได้ ซึ่ง Qurve Clinic มีศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่จะประเมินว่าคุณผู้ชายสามารถดูดไขมันหน้าท้อง ที่กวนใจออกมาได้หรือไม่ เพราะเราใส่ใจผลลัพธ์ที่ดีที่สุด มาคู่กับความปลอดภัยเป็นอันดับ 1
ผู้ชายดูดไขมันหน้าท้องจะช่วยสร้าง Sexyline ได้จริงหรือ?
ทั้งคุณผู้ชาย และคุณผู้หญิง มีกล้ามหน้าท้องอยู่แล้วแต่จะเห็นชัดหรือไม่ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น มวลกล้ามเนื้อ ปริมาณไขมันสะสม และสภาพผิว หากมีความหย่อนคล้อยก็ทำให้เห็นกล้ามหน้าท้องไม่ชัดเจน แต่ในการดูดไขมันหน้าท้องผู้ชาย สำหรับคนไข้บางรายจะแนะนำให้เป็นการดูดไขมันเพื่อลดไซส์ เนื่องจากมีไขมันสะสมเป็นจำนวนมาก สำหรับการดูดไขมันหน้าท้อง เพื่อสร้าง Sexyline คือการดูดไขมัน และสร้างร่องกล้ามเนื้อไปพร้อมกัน เพื่อให้เห็นชัดมากขึ้น ซึ่งศัลยแพทย์จะประเมินการรักษาเพื่อออกแบบการดูดไขมันให้เข้ากับสรีระมากที่สุด

ขั้นตอนการดูดไขมันหน้าท้องผู้ชาย ด้วยเครื่อง Vaser Smooth 2.2

เครื่องดูดไขมัน VASER Smooth 2.2 ใช้พลังคลื่นเสียง Ultrasound ที่สามารถละลายเซลล์ไขมันที่มีความแน่นได้อย่างดี และสามารถกำจัดพังผืดได้อย่างตรงจุด แม่นยำ และใช้ระยะเวลาในการดูดไขมันไม่นาน และให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
1. ศัลยแพทย์จะขีดแนวบริเวณที่จะดูดไขมัน หากบริเวณที่ทำกว้างก็จะต้องวางยาสลบ แต่หากไม่กว้างก็จะใช้ยาชาเฉพาะที่
2. ศัลยแพทย์จะกรีดแผลเล็กประมาณ 3 มิลลิเมตร ในบริเวณที่ซ่อนการมองเห็น เช่น บริเวณขอบกางเกงใน
3. ศัลยแพทย์อาจใช้น้ำเกลือผสมยาชาฉีดเข้าไป เพื่อทำให้ไขมันแตกตัวเป็นของเหลว
และดูดออกอย่างงายดาย ทำให้อาการบวมช้ำน้อยลงมาก
4. สอดท่อเล็ก ที่ต่อกับเครื่องดูดไขมัน Vaser Smooth 2.2 โดยตั้งพลังงานให้พอเหมาะ
เพื่อดูดไขมันส่วนที่ไม่ต้องการออก โดยไม่ทำลายเส้นเลือด และเส้นประสาท
5. หลังจากนั้นผิวจะยุบตัวลง และกระชับขึ้น

คำถามที่พบบ่อย
ดูดไขมันหน้าท้องผู้ชายเจ็บหรือเปล่า
หลายคนกังวลว่า การดูดไขมันหน้าท้องผู้ชายเจ็บหรือเปล่า ต้องบอกเลยว่าไม่เจ็บอย่างที่คิด แต่การดูดไขมันเป็นการศัลยกรรมใหญ่ และทุกการผ่าตัดมีความเสี่ยง จึงต้องเลือกทำการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและโรงพยาบาลหรือคลินิกที่ได้รับมาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยของผู้เข้ารับการดูดไขมันเอง
การดูดไขมันสำหรับผู้ชายอันตรายไหม
คำถามยอดฮิต คือ การดูดไขมันหน้าท้องผู้ชายอันตรายหรือไม่ ต้องบอกเลยว่าการดูดไขมันเป็นวิธีการลดสัดส่วนที่ปลอดภัย เห็นผลลัพธ์ชัดเจน และ ไม่อันตราย ซึ่งได้รับการยอมรับจากศัลยแพทย์ทั่วโลก
การดูแลตัวเอง หลังการดูดไขมันหน้าท้องผู้ชาย
1. ทานยาตามที่แพทย์สั่ง และมาติดตามอาการตามนัด
2. เมื่อครบ 7-10 วันคลินิกจะเข้ามาตัดไหม และตรวจแผลอีกครั้ง
3. งดออกกำลังกายอย่างหนักในช่วง 3-4 สัปดาห์แรกหลังดูดไขมัน
4. อาการบวม ช้ำจะจางลงเรื่อยๆ ประมาณ 7 วัน
5. ใส่ชุดกระชับสัดส่วนเพื่อให้บริเวณที่ดูดไขมันเข้ารูป 24 ชั่วโมง ใน 3 วันแรก ถอดเฉพาะเวลาอาบน้ำ หรือทำแผล และ ใส่ 12 ชั่วโมงต่อวัน ติดกัน 1 เดือน โดยแนะนำให้ใส่กลางวันเพื่อพยุงเวลาเดิน หรือ ตามคำแนะนำของแพทย์
6. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะกลุ่มโปรตีนที่จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวไวขึ้น
การดูดไขมันหน้าท้อง จะเห็นผลเมื่อไหร่ และจะอยู่ได้นานแค่ไหน
โดยปกติ ผู้ชายจะฟื้นตัวไวกว่าผู้หญิง การดูดไขมันสำหรับผู้ชายผลลัพธ์ที่ชัดเจนประมาณ 1 เดือน และกระชับขึ้นอย่างต่อเนื่องภายใน 3 เดือน เนื่องจากการสร้างคอลลาเจนของร่างกาย ใต้ชั้นผิวจากการดูดไขมัน หากไม่มีการเพิ่มน้ำหนักอย่างรวดเร็วก็ไม่จำเป็นต้องดูดไขมันอีก และจุดที่ทำการดูดไขมัน ไขมันจะกลับมายากกว่าจุดที่ไม่ได้ดูดไขมัน ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบของการดูดไขมันด้วยเทคนิคเฉพาะ กับการดูดไขมันธรรมดา